วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2552

"ส้มแก้ว" ของดีเมืองแม่กลอง ผลไม้ขึ้นชื่อต้องช่วยกันอนุรักษ์



บนเนื้อที่ 48,429 ไร่ ของ อ.บางคนที หนึ่งใน 3 อำเภอของจังหวัดสมุทรสงคราม มีราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรทำสวนมะพร้าวสวนส้มโอและลิ้นจี่กันเป็นจำนวนมาก แต่หลายคนยังไม่เคยรู้ว่าที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดของ ส้มแก้ว ส้มอีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะโดดเด่นไม่แพ้ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ และลิ้นจี่ที่จัดเป็นผลไม้พื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของ จ.สมุทรสงคราม
"ส้มแก้ว” ถือเป็นผลผลิตที่เกิดจากทรัพย์ในดินของ อ.บางคนที่ และอัมพวา อย่างแท้จริง เนื่องจากสภาพดินเป็นดินเหนียวปนร่วน ที่เกิดจากกระแสน้ำที่พัดพาตะกอนของน้ำเหนือมาทับถมในพื้นที่ บวกกับสภาพน้ำที่จืดสนิท จึงทำให้มีธาตุอินทรีย์วัตถุอุดมสมบูรณ์ต่างจากสภาพดินในเขตพื้นที่ อ.เมือง และจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย อ.บางคนที และอัมพวา จึงถือเป็นต้นกำเนิดส้มแก้วพันธุ์ดีแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.บางสะแก และโรงหีบ อ.บางคนที ต.แควอ้อม ต.บางแค อ.อัมพวา ส้มแก้วของทั้งสองอำเภอ จะเจริญเติบโตให้ผลผลิตดก ใหญ่ และน้ำหนักดีกว่าการนำกิ่งพันธุ์ส้มแก้วไปเพาะปลูกในจังหวัดอื่นซึ่งไม่ได้ผล และบางรายแม้จะมีผลผลิตแต่รสชาดความอร่อยและขนาดของผลก็ไม่เหมือนส้มแก้วใน อ.บางคนที และอัมพวา แต่น่าเสียดายที่ในอดีตเกษตรกรปลูกส้มแก้วไว้เพียงเป็นพืชแซมในสวนเท่านั้น มีน้อยรายที่ปลูกแบบจริงจัง ส้มแก้วจึงหาดูและหาซื้อได้ยากในปัจจุบัน นายพงษ์ศิษฐ์ คลังศิริ อายุ 48 ปี ชาวตำบลบางสะแก อ.บางคนที กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้วที่บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่ ของตนได้ผลิกฟื้นให้เป็นพื้นที่เกษตรผสมผสานด้วยการปลูกส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ ผสมกับลิ้นจี่ และส้มแก้ว โดยเห็นว่าส้มแก้วชอบสภาพอากาศเย็นที่มีร่มเงาไม้หนาปรกคลุมสำหรับส้มแก้วนั้นจะเก็บผลผลิตได้ประมาณช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ของทุกปี ซึ่งส้มแก้วที่แก่จัดจะมีผิวสีเหลืองทองทั่วทั้งผล โดยส้มแก้ว 1 ต้นจะให้ผลผลิตประมาณ 200-1,000 ลูกเลยทีเดียว แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลเอาใจใส่และความแข็งแรงสมบูรณ์ของต้น ส่งนราคาจำหน่ายนั้นหากขายส่งหน้าสวนจะจำหน่ายในราคาส่งกิโลกรัมละ 30 บาท โดยพ่อค้าคนกลางจะมารับซื้อกันถึงหน้าสวนเพื่อนำไปจำหน่ายต่อกันที่ตลาดทั้งใน จ.สมุทรสงคราม ตลาดดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี และตลาดกลางในกรุงเทพมหานคร ซึ่งราคาของส้มแก้วจะขยับขึ้นสูงถึงกิโลกรัมละ 70 -120 บาท โดยส้มแก้วที่น้ำหนักดีดีก็จะตกประมาณ 2-3 ลูกต่อกิโลกรัม และจากการปลูกส้มแก้วสามารถสร้างรายได้ให้กับตนและครอบครัว ถึงปีละประมาณ 50,000-100,000 แสนบาทต่อปีด้วยลักษณะเด่นของผลส้มแก้วที่มีคุณภาพผลใหญ่น้ำหนักดี ประกอบกับผิวส้มที่มีสีเหลืองทอง และมีรสชาดหวานอมเปรี้ยว กลีบใหญ่น้ำเยอะ ทำให้ผู้บริโภคนิยมนำมาคั้นเป็นน้ำส้มสดๆ ใส่เกลือป่นและน้ำตาลเพียงเล็กน้อย แต่ได้คุณภาพของวิตามินซีคับแก้วมาดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกายกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ในชาวไทยเชื้อสายจีนยังเชื้อว่า ส้มแก้วเป็นผลไม้มงคลจึงนิยมนำส้มแก้วมาขึ้นหิ้งเซ่นไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเทศกาลต่างๆ และถึงแม้ว่า ส้มแก้วจะให้ผลผลิตและราคาดี แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายคะเพราะนับวันเกษตรกรไม่ค่อยให้ความสนใจในการเพาะปลูกส้มแก้วมากนัก เพราะเห็นว่าส้มแก้วเป็นพืชที่ให้ผลเพียงหนึ่งครั้งต่อปี และยังต้องดูแลเอาใจใส่เรื่องปุ๋ยอาหารเสริม ตลอดจนเรื่องโรค แมลงมากกว่า ส้มโอที่ให้ผลผลิตมากกว่า 4 ครั้งต่อปี อีกทั้งการปลูกส้มแก้วยังมีต้นทุนสูงในการจ้างแรงงานห่อต่อผลถึง70สตางค์ทำให้เกษตรกรหลายรายเริ่มท้อถอยนายวันชัย คนงาม นักวิชาการสำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นที่น่าเสียดายที่เกษตรกรในพื้นที่ อ.บางคนที และอัมพวา เริ่มเกิดความรู้สึกย่อท้อและปลูกส้มแก้วกันน้อยลง เนื่องจากเกรงว่า จะขาดทุนจากค่าแรงงานที่สูงและการดูแลรักษายาก โดยทางสำนักงานเกษตร จ.สมุทรสงคราม ได้ให้การสนับสนุนเกษตรกรที่ปลูกส้มแก้ว ด้วยการให้คำปรึกษา พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกส้มแก้วกันอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อรักษาสายพันธุ์ส้มแก้วไม่ให้สูญพันธุ์และให้อยู่คู่กับถิ่นกำเนิดต่อไปหากผู้ที่มีความต้องการจะชิมลิ้มรส ส้มแก้ว ของดีเมืองแม่กลอง ในขณะนี้ส้มแก้วกำลังออกผลิตผลเต็มที่ มีจำหน่ายในตลาดผลไม้ในตัวเมืองแม่กลอง และตามตลาดนัดเปิดท้ายต่างๆ ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยว หรือร้านค้าบริเวณริมถนนพระราม 2 ถนนสมุทรสงคราม – บางแพ ถนนสายแม่กลอง –บางนกแขวก และถนนเลียมริมแม่น้ำแม่กลองฝั่งตะวันตก ในเขตพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม หลายท่านเคยลองลิ้มชิมรสอร่อยของส้มโอ และลิ้นจี่ ของดีเมืองแม่กลองจนติดใจมาแล้ว ลองชิมรสส้มแก้ว ดูบ้างแล้วจะรู้นี่ก็คือผลม้ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของ จ.สมุทรสงคราม


ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น